อุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่นำน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ มาผ่านกระบวนการต่าง ๆ นำไปสู่การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านเชื้อเพลิงและพลังงาน ประกอบด้วย การสกัดก๊าซธรรมชาติ การกลั่นปิโตรเลียม การขนส่งเชื้อเพลิง สถานีบริการน้ำมัน รวมไปถึงยังมีผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีหลายชนิด เช่น เม็ดพลาสติก ใยสังเคราะห์ ยางสังเคราะห์ สารเคลือบผิวและกาว เป็นต้น ที่ถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบพื้นฐานของอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องอุปโภคบริโภคและวัสดุก่อสร้าง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวิถีชีวิตและเศรษฐกิจโลก และในอนาคต อัตราความต้องการต่อพลังงานเหล่านี้ก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจะยังมีบทบาทสำคัญไปในอีกหลายทศวรรษ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้การทำงานของระบบอุตสาหกรรมนี้ต้องหยุดชะงัก ส่งผลกระทบเชื่อมโยงต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ ของประเทศ จะนำมาสู่ความเสียหายอันประเมินค่าไม่ได้
ฉะนั้นแล้ว ภัยจากแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากธรรมชาติและการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น ฟ้าผ่า ไฟฟ้าสถิต และจากมนุษย์สร้างขึ้น จึงเป็นความเสี่ยงที่ต้องมีมาตการและแผนงานในการป้องกัน ตลอดจนการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ระบบอุตสาหกรรมคงไว้ซึ่งการทำงานอย่างต่อเนื่องและเกิดความปลอดภัยสูงสุด
EMC for Unplanned Shutdown ในการออกแบบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายจากการหยุดการทำงานฉุกเฉินที่ไม่เป็นไปตามแผน
1. EMC Environmental Impact Assessment (EIA)
2. EMC Management
3. EMC Consultancy
คลังน้ำมัน สิ่งปลูกสร้าง หรือถังเก็บสารไวไฟขนาดใหญ่ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องติดตั้งระบบป้องกัน เนื่องจากผลของฟ้าผ่า ณ จุดใด ๆ อาจทำให้เกิดประกาย (Spark) จนนำไปสู่การระเบิดของเชื้อเพลิงหรือการเกิดเพลิงไหม้ได้
สถานีบริการน้ำมันคือสถานที่ที่ใช้ในการเก็บรักษา ตลอดถึงการบรรจุ ขนถ่าย และจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้บริการแก่ยานพาหนะ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการติดตั้งระบบป้องกันฟ้าผ่า เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสิ่งปลูกสร้างและชีวิตผู้คน โดยระบบป้องกันฟ้าผ่าควรติดตั้งบริเวณอาคารแท่นจ่ายน้ำมัน อาคารบริการต่าง ๆ และป้ายเครื่องหมายการค้า